แก้ไขข้อบกพร่องการเข้าชมจาก Google Search ที่ลดลง

การเข้าชมจากการค้นหาทั่วไปใน Search ที่ลดลงอาจเกิดขึ้นจากหลายสาเห��ุ และการทำความเข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้นกับเว็บไซต์ของคุณอาจเป็นเรื่องยาก คู่มือนี้อธิบายวิธีใช้รายงานประสิทธิภาพของ Search Console และ Google เทรนด์เพื่อตรวจสอบสาเหตุของการเข้าชมที่ลดลง และวิธีจัดการกับเรื่องนี้

สาเหตุหลักที่ทำให้การเข้าชมจากการค้นหาทั่วไปของ Search ลดลง

ลองดูภาพร่างเพื่อให้เห็นภาพของสิ่งที่ส่งผลต่อการเข้าชมในเครือข่าย Search ซึ่งแสดงสิ่งที่อาจส่งผลต่อการเข้าชมคร่าวๆ และจะแสดงว่ากราฟของคุณจะมีลักษณะอย่างไร

ปัญหาการรักษาความปลอดภัยหรือสแปมลดลงอย่างมากจากการอัปเดตอัลกอริทึม ปัญหาด้านความปลอดภัยทั่วทั้งเว็บไซต์

การผันแปรตามฤดูกาล

ปัญหาทางเทคนิคในเว็บไซต์ มีการเปลี่ยนแปลงความสนใจ

การรายงานข้อบกพร่อง ¯\_(ツ)_/¯

ส่วนต่อไปนี้ครอบคลุมสาเหตุหลักที่คุณควรตรวจสอบเมื่อวิเคราะห์การเข้าชมที่ลดลง นอกจากนี้ อย่าลืมตรวจสอบหน้าความผิดปกติของข้อมูลใน Search Console เพื่อดูว่าเว็บไซต์มีปัญหาใดๆ หรือไม่ การลดลงอาจเกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนแปลงในการประมวลผลข้อมูลหรือข้อผิดพลาดในการบันทึก

การอัปเดตอัลกอริทึม

Google ���ร��บ��ร����������ี���ร��เ��ินเนื้อหาและอัปเดตการจัดอันดับการค้นหาและอัลกอริทึมการให้บริการให้สอดคล้องกันอยู่เสมอ อัปเดตหลักและการอัปเดตย่อยอื่นๆ อาจเปลี่ยนแปลงประสิทธิภาพของบางหน้าในผลการค้นหาของ Google Search เราโพสต์เกี่ยวกับการปรับปรุงที่สำคัญของระบบในรายการหน้าการอัปเดตการจัดอันดับ ลองตรวจสอบว่ามีสิ่งใดที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์ของคุณหรือไม่

หากสงสัยว่าการเข้าชมที่ลดลงเกิดจากการอัปเดตอัลกอริทึม คุณควรตรวจดูว่าเนื้อหาไม่ได้มีสิ่งใดผิดปกติไปจากพื้นฐานที่ควรจะเป็น หากต้องการดูว่าคุณต้องทำการเปลี่ยนแปลงหรือไม่ ให้ตรวจสอบหน้าของคุณที่ได้รับความนิยมในอันดับต้นๆ ใน Search Console และประเมินอันดับของหน้าเหล่านั้น ดังนี้

ตำแหน่งตกลงเล็กน้อย

ตำแหน่งตกลงเล็กน้อยคือเมื่อมีการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยของตำแหน่งในผลการค้นหายอดนิยม (เช่น ลดลงจากอันดับที่ 2 เป็นที่ 4 สำหรับคำค้นหาหนึ่ง) ใน Search Console คุณอาจเห็นการเข้าชมลดลงอย่างเห็นได้ชัดโดยที่การแสด��ผลไม่เปลี่ยนแปลงมาก

ความผันผวนเล็กน้อยเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ (รวมถึงการกลับขึ้นไปที่ตำแหน่งเดิมโดยที่คุณไม่จำเป็นต้องดำเนินการใดๆ) เราขอแนะนำให้คุณหลีกเลี่ยงการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ หากหน้าเว็บมีประสิทธิภาพดีอยู่แล้ว

ตำแหน่งตกลงอย่างมาก

ตำแหน่งลดลงอย่างมาก คือเมื่อคุณเห็นการลดลงอย่างเห็นได้ชัดของผลการค้นหาอันดับต้นๆ สำหรับคำที่หลากหลาย (เช่น การลดลงจากผลลัพธ์ 10 อันดับแรกมาอยู่ที่อันดับ 29)

ในกรณีเช่นนี้ ให้ประเมินทั้งเว็บไซต์โดยรวม (ไม่ใช่แค่แต่ละหน้า) ด้วยตนเอง เพื่อให้แน่ใจว่าเว็บไซต์มีประโยชน์ น่าเชื่อถือ และคำนึงถึงผู้ใช้เป็นหลัก หากคุณได้ทำการเปลี่ยนแปลงในเว็บไซต์ อาจใช้เวลาสักพักกว่าจะเห็นผล การเปลี่ยนแปลงบางอย่างจะมีผลใน 2-3 วัน ในขณะที่การเปลี่ยนแปลงอื่นๆ อาจใช้เวลาหลายเดือน เช่น อาจใช้เวลาหลายเดือนกว่าที่ระบบของเราจะพิจารณาว่าขณะนี้เว็บไซต์กำลังผลิตเนื้อหาที่เป็นประโยชน์ในระยะยาว โดยทั่วไปแล้วคุณอาจต้องรอ 2-3 สัปดาห์เพื่อวิเคราะห์เว็บไซต์ใน Search Console อีกครั้งจึงจะเห็นว่าความพยายามของคุณส่งผลดีต่ออันดับหรือไม่

ปัญหาทางเทคนิค

ปัญหาทางเทคนิคคือข้อผิดพลาดที่ทำให้ Google ไม่สามารถทำการ Crawl, จัดทำดัชนี หรือแสดงหน้าเว็บของคุณ���ก่ผู้ใช้ เช่น ความไม่พร้อมใช้งานของเซิร์ฟเวอร์, ปัญหาการดึงข้อมูล robots.txt, การที่ไม่พบหน้าเว็บ เป็นต้น

โปรดทราบว่าปัญหาอาจเกิดขึ้นกับทั้งเว็บไซต์ (เช่น เว็บไซต์ล่ม) หรือทั้งหน้า (เช่น วางแท็ก noindex ไว้ผิดที่ ซึ่งจะต้องรอให้ Google ทำการ Crawl นั้น การเข้าชมจึงค่อยๆ ลดลง)

ดูรายงานสถิติการ Crawl และรายงานการจัดทำดัชนีหน้าเว็บเพื่อดูว่ามีการตรวจพบปัญหาที่จู่ๆ ก็เพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็วหรือไม่ ซึ่งอาจช่วยให้คุณระบุปัญหาได้

ปัญหาด้านความปลอดภัย

หากเว็บไซต์ได้รับผลกระทบจากภัยคุกคามด้านความปลอดภัย เช่น มัลแวร์หรือฟิชชิง ระบบของ Google อาจแจ้งเตือนผู้ใช้ก่อนที่จะไปยังเว็บไซต์ของคุณด้วยคําเตือนหรือหน้าเว็บคั่นระหว่างหน้า ซึ่งอาจลดการเข้าชมจาก Search

ดูรายงานปัญหาด้านความปลอดภัยเพื่อดูว่า Google ตรวจพบภัยคุกคามด้านความปลอดภัยในเว็บไซต์ของคุณหรือไม่

ปัญหาเกี่ยวกับสแปม

Google ตรวจหาการกระทำที่ละเมิดนโยบายสแปมของ Google Search ทั้งผ่านระบบอัตโนมัติและการตรวจสอบจากเจ้าหน้าที่ตามที่จำเป็นซึ่งอาจส่งผลให้มีการดำเนินการโดยเจ้าหน้าที่ หากเว็บไซต์ไม่เป็นไปตามนโยบายสแปมสําหรับ Google Web Search เนื้อหาอาจมีอันดับต่ำกว่าในผลการค้นหาหรือไม่ปรากฏในผลการค้นหาเลย

หากคุณสงสัยว่าอันดับตกลงเนื่องจากมีการละเมิดสแปม โปรดอ่านนโยบายสแปมเพื่อให้ตรวจสอบว่าคุณไม่ได้มีส่วนร่วมการทำสแปมที่ระบบอัตโนมัติของเราตรวจพบ และตรวจสอบรายงานการดำเนินการโดยเจ้าหน้าที่ใน Search Console เพื่อดูว่ามีการดำเนินการในเว็บไซต์หรือไม่

การผันแปรตามฤดูกาลและความสนใจที่มีการเปลี่ยนแปลง

บางครั้งการเปลี่ยนแปลงของพฤติกรรมผู้ใช้อาจทำให้ความต้องการข้อความค้นหาบางอย่างเปลี่ยนไป ไม่ว่าจะเป็นแนวโน้มใหม่หรือการผันแปรตามฤดูกาล ซึ่งหมายความว่าการเข้าชมที่คุณได้รับอาจลดลงเพียงเพราะว่าเป็นผลจากอิทธิพลภายนอกที่ควบคุมไม่ได้

ค้นหาคำค้นหาที่มี������ว���������ก���ละการแสดงผลลดลงด้วยรายงานประสิทธิภาพโดยใช้ตัวกรองเพื่อรวมคำค้นหาครั้งละ 1 รายการเท่านั้น (เลือกคำค้นหาที่ได้รับการเข้าชมมากที่สุด) จากนั้นตรวจสอบใน Google เทรนด์เพื่อให้ทราบว่าการลดลงเกิดขึ้นเฉพาะกับเว็บไซต์หรือทั่วทั้งอินเทอร์เน็ตหรือไม่

การย้ายเว็บไซต์และการย้ายข้อมูล

หากเปลี่ยน URL ของหน้าที่มีอยู่ในเว็บไซต์ คุณอาจประสบความผันผวนของการจัดอันดับขณะที่ Google ทำการ Crawl และจัดทำดัชนีเว็บไซต์อีกครั้ง ทั้งนี้ตามกฎทั่วไป เว็บไซต์ขนาดกลางอาจใช้เวลา 2-3 สัปดาห์กว่าที่ Google จะเห็นการเปลี่ยนแปลง เว็บไซต์ขนาดใหญ่อาจใช้เวลานานกว่านั้น

หากคุณเห็นการลดลงหลังจากย้ายเว็บไซต์แต่ไม่เห็นว่าการเข้าชมจะกลับคืนมา ให้ตรวจสอบส่วนการแก้ปัญหาการย้ายเว็บไซต์เพื่อหาข้อผิดพลาดที่พบบ่อยเมื่อย้ายข้อมูลเว็บไซต์ที่มีการเปลี่ยนแปลง URL

วิเคราะห์รูปแบบการลดลงของการเข้าชมจาก Search

วิธีที่ดีที่สุดในการทำความเข้าใจสิ่งที่เกิดขึ้นกับการเข้าชมของคุณคือการดูแผนภูมิหลักในรายงานประสิทธิภาพของ Search Console เพราะเป็นการสรุปจากข้อมูลจำนวนมาก

หากทั้งการแสดงผลและการคลิกลดลง ให้ตรวจสอบรายการด้านบนเพื่อหาสาเหตุที่พบบ่อยที่สุดที่อาจเป็นสาเหตุ การที่การแสดงผลยังคงเหมือนเดิมแต่จำนวนคลิกลดลงหมายความว่าคุณอาจยังสร้าง��ื่อหน้าและตัวอย่างข้อมูลออกมาได้ไม่ดีที่สุด ผู้ใช้จึงไม่เข้าใจเนื้อหาของหน้าเว็บ หรืออาจเป็นเพราะเว็บไซต์อื่นมีผลการค้นหาที่เป็นริชมีเดียที่น่าสนใจกว่า

ไปที่รายงานประสิทธิภาพใน Search และลองใช้ตัวกรองกับข้อมูลตามที่อธิบายไว้ในส่วนต่อไปนี้

เปลี่ยนช่วงวันที่ให้มีระยะเวลา 16 เดือน

เลือกตัวกรองวันที่ที่ด้านบนของแผนภูมิ แล้วเลือก 16 เดือนที่ผ่านมา วิธีนี้จะช่วยวิเคราะห์การเข้าชมที่ลดลงในบริบทนั้นๆ และช่วยให้แน่ใจว่าไม่ใช่การลดลงที่เกิดขึ้นเป็นประจำทุกปีอันเป็นผลมาจากช่วงวันหยุดหรือเทรนด์ หากต้องการขยายระยะเวลาออกไปมากกว่า 16 เดือน ให้ใช้ Search Analytics API หรือการส่งออกข้อมูลจํานวนมากเพื่อดึงข้อมูลและจัดเก็บไว้ใน ทั้งหมด

ภาพหน้าจอของตัวกรองช่วงวันที่ของรายงานประสิทธิภาพที่แสดงข้อมูลในช่วง 16 เดือนที่ผ่านมา

แผนภูมิต่อไปนี้แสดงแผนภูมิประสิทธิภาพที่มีข้อมูลในแต่ละช่วงเวลาของปี (ข้อมูล 16 เดือน) สังเกตการลดลงล่าสุดที่เกิดขึ้นเหมือนกับปีที่ผ่านมาอย่างไร

ภาพหน้าจอของรายงานประสิทธิภาพที่แสดงฤดูกาลประจำปี

เปรียบเทียบช่วงเวลาที่มีการเข้าชมลดลงกับช่วงเวลาที่มีลักษณะคล้ายกัน

เลือกตัวกรองวันที่ที่ด้านบนของแผนภูมิ เลือกแท็บเปรียบเทียบ แล้วเลือกเปรียบเทียบ 3 เดือนที่ผ่านมากับช่วงเวลาก่อนหน้า หรือเปรียบเทียบช่วง 3 เดือนที่ผ่านมาแบบปีต่อปี ซึ่งจะช่วยให้ตรวจสอบได้ว่าสิ่งที่เปลี่ยนแปลงไปคืออะไรแน่ อย่าลืมคลิกแท็บทั้งหมดเพื่อดูว่าการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นเฉพาะก��บคำค้นหา, URL, ประเทศ, อุปกรณ์ หรือลักษณะที่ปรากฏในการค้นหารายการใดรายการหนึ่งเท่านั้นหรือไม่ (ดูวิธีสร้างตัวกรองการเปรียบเทียบ)

ภาพหน้าจอของการเปรียบเทียบตัวกรองช่วงวันที่ของรายงานประสิทธิภาพ

แผนภูมิต่อไปนี้แสดงแผนภูมิเปรียบเทียบประสิทธิภาพการทำงานในช่วง 3 เดือน สังเกตการลดลงของการเข้าชมได้อย่างชัดเจนเมื่อเปรียบเทียบเส้นทึบ (3 เดือนที่ผ่านมา) กับเส้นไข่ปลา (3 เดือนก่อนหน้า)

โหมดเปรียบเทียบในรายงานประสิทธิภาพที่แสดงการเข้าชมลดลง

วิเคราะห์การค้นหาประเภทต่างๆ แยกกัน

เลือกตัวกรองประเภทการค้นหาที่ด้านบนของแผนภูมิและลองตัวเลือกอื่นๆ ที่มี วิธีนี้จะช่วยให้ทราบว่าการลดลงที่เห็นนั้นเกิดขึ้นในการค้นเว็บ, Google รูปภาพ หรือแท็บ "วิดีโอ" หรือ "ข่าวสาร"

ภาพหน้าจอของตัวกรองประเภทการค้นหาในรายงานประสิทธิภาพ

ติดตามดูอันดับเฉลี่ยในผลการค้นหา

คลิกอันดับเฉลี่ยเหนือแผนภูมิ คุณไม่ควรให้ความสำคัญมากเกินไปกับเลขตำแหน่งโดดๆ การแสดงผลและการคลิกจะเป็นตัววัดความสำเร็จของเว็บไซต์ในที่สุด อย่างไรก็ตาม หากเห็นว่าตำแหน่งตกลงอย่างรวดเร็วและต่อเนื่อง ให้ลองประเมินเนื้อหาด้วยตนเองเพื่อวัด��่าเนื้อหาดังกล่าวมีประโยชน์และเชื่อถือได้ไหม

ภาพหน้าจอของรายงานประสิทธิภาพที่แสดงการลดลงของอันดับเฉลี่ย

มองหารูปแบบในหน้าเว็บที่ได้รับผลกระทบ

ดูตารางหน้าเว็บใต้แผนภูมิเพื่อค้นหารูปแบบที่อาจอธิบายว่าการลดลงมาจากที่ใด ตัวอย่างเช่น ปัจจัยที่สำคัญอย่างหนึ่งคือการดูว่าการลดลงเกิดขึ้นทั่วทั้งเว็บไซต์ กลุ่มของหน้าเว็บ หรือแม้แต่หน้าที่สำคัญมากเพียงหน้าเดียวในเว็บไซต์หรือ��ม่ โดยเปรียบเทียบช่วงที่มีการลดลงกับช่วงเวลาที่คล้ายกัน และเปรียบเทียบหน้าเว็บที่สูญเสียคลิกไปเป็นจำนวนมาก เลือกความแตกต่างของจำนวนคลิกเพื่อเรียงลำดับตามหน้าเว็บที่สูญเสียการเข้าชมมากที่สุด

หากเป็นปัญหาทั้งเว็บไซต์ ให้ดูรายงานการจัดทําดัชนีหน้าเว็บ หากการลดลงส่งผลต่อกลุ่มหน้าเว็บเท่านั้น ให้ใช้เครื่องมือตรวจสอบ URL เพื่อตรวจสอบหน้าเว็บบางหน้า

ภาพหน้าจอของรายงานประสิทธิภาพที่แสดงการเปรียบเทียบหน้าเว็บ

หากต้องการตรวจสอบให้ลึกขึ้นอีก ให้ใช้ Google เทรนด์ ซึ่งจะช่วยให้เข้าใจว่าการลดลงนั้นเป็นเทรนด์ที่เกิดในวงกว้างหรือไม่ หรือเกิดขึ้นเฉพาะกับเว็บไซต์ของคุณเท่านั้น การเปลี่ยนแปลงเหล่านี้อาจเกิดจากปัจจัยหลัก 2 ประการดังนี้

  1. ความสนใจที่เปลี่ยนไป หากมีการเปลี่ยนแปลงสําคัญเกี่ยวกับสิ่งที่ผู้คนค้นหาและวิธีค้นหา ผู้คนอาจเริ่มค้นหาโดยใช้คําค้นหาอื่น หรือใช้อุปกรณ์เพื่อวัตถุประสงค์อื่น นอกจากนี้ หากคุณขายแบรนด์ใดแบรนด์หนึ่งทางออนไลน์ ก็อาจมีผลิตภัณฑ์ใหม่สำหรับคำค้นหาเดียวกันด้วย
  2. การผันแปรตามฤดูกาล ตัวอย่างเช่น เว็บไซต์ Rhythm of Food แสดงให้เห็นว่าคําค้นหาเกี่ยวกับอาหารมีการผันแปรตามฤดูกาลอย่างมาก เช่น ผู้คนจะค้นหาอาหารเพื่อสุขภาพในเดือนมกราคม ค้นหาไก่งวงในเดือนพฤศจิกายน และค้นหาแชมเปญในเดือนธันวาคม แวดวงธุรกิจที่ต่างกันจะมีระดับของการผันแปรตามฤดูกาลที่แตกต่างกัน

หากต้องการวิเคราะห์เทรนด์ในแวดวงธุรกิจต่างๆ คุณสามารถใช้ Google เทรนด์ ซึ่งจะช่วยให้เข้าถึงตัวอย่างคําขอ��้นหาที่เกิดขึ้นจริงใน Google ซึ่งคำขอนั้นไม่ได้ผ่านการกรองเป็นส่วนใหญ่ คำขอค้นหาเหล่านี้มีการจัดหมวดหมู่และสรุปรวมโดยไม่ระบุตัวตน การใช้คำขอค้นหาเหล่านี้ทําให้ Google แสดงความสนใจของผู้คนในหัวข้อต่างๆ จากทั่วโลกหรือลงลึกในระดับเมืองได้

ตรวจสอบคำค้นหาที่เพิ่มการเข้าชมเว็บไซต์ของคุณ เพื่อดูว่าการเข้าชมลดลงในช่วงเวลาต่างๆ ของปีอย่างชัดเจนหรือไม่ ในตัวอย่างด้านล่าง คุณจะเห็นเทรนด์ 3 ประเภท (ตรวจสอบข้อมูล) ได้แก่

  1. ไก่งวงมีการผันแปรตามฤดูกาลอย่างมาก โดยจะพุ่งสูงขึ้นที่สุดในเดือนพฤศจิกายนของทุกปี
  2. เนื้อไก่แสดงถึงการผันแปรตามฤดูกาลอยู่บ้าง แต่ไม่เด่นชัดนัก
  3. กาแฟมีความเสถียรกว่ามาก ดูเหมือนว่าใครๆ ก็อยากดื่มกาแฟทั้งปี
ภาพหน้าจอของ Google เทรนด์ที่แสดงเทรนด์ของไก่งวง ไก่ และกาแฟ

คุณยังอาจอยากดูข้อมูลเชิงลึกอื่นๆ ที่น่าสนใจซึ่งสามารถช่วยเรื่องการเข้าชมจาก Search ดังนี้

  • ตรวจสอบคําค้นหายอดนิยมในภูมิภาคของคุณและเปรียบเทียบคำค้นหานั้นกับคําค้นหาที่ทำให้คุณได้รับการเข้าชม ดังที่แสดงในรายงานประสิทธิภาพของ Search Console หากคำค้นหาที่ควรจะทำให้มีการเข้าชมเว็บไซต์ของคุณขาดหายไป ให้ตรวจสอบว่าคุณมีเนื้อหาในเรื่องนั้นๆ หรือไม่ และจัดการให้มีการ Crawl และจัดทำดัชนีเนื้อหาดังกล่าว
  • ตรวจสอบคําค้นหาที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อสําคัญๆ ซึ่งอาจทำให้พบคำค้นหาที่เกี่ยวข้องซึ่งมีการใช้พุ่งสูงขึ้นและช่วยคุณจัดเตรียมเว็บไซต์สำหรับคำค้นหาเหล่านี้ด้วยการเพิ่มเนื้อหาที่เกี่ยวข้อง เป็นต้น เพื่อพูดถึงหัวข้อใหม่ๆ เหล่านั้น